Sub query คือ การดึงข้อมูลออกเป็นตารางเสมือน ตามเงื่อนไขที่ต้องการเพื่อจุดประสงค์ที่ต้องการ
ซึ่งต้องใช้ ( ) ในการ scope
ตัวอย่างการใช้งาน SUB Query
SELECT a.*
FROM (
SELECT emp_id,emp_name
FROM employee
WHERE emp_id >= '100111'
) as a
จากตัวอย่างหมายความว่า เลือกข้อมูลทั้งหมดจากตารางที่มี Alias "a" ซึ่งเป็น Sub query จากการ
Select ข้อมูลจากตาราง employee ที่มี emp_id >= '100111'
Mssql, Microsoft sql server, SSAS, SSRS ,SSIS , Analysis Service, Reporting Service, Integration Service, XMLA ,MDX ,SQL
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ SQL Command แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ SQL Command แสดงบทความทั้งหมด
วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553
การใช้คำสั่ง IN ใน SQL command
คำสั่ง IN ใน Sql หมายถึงการกรองข้อมูลด้วย column โดยที่ค่าที่ต้องการกรองมีได้มากกว่า 1 ค่า ซึ่งแตกต่างจากการใช้เครื่องหมายเท่ากับ ("=") และค่าที่ใช้กรองจะต้องอยู่ภายในวงเล็บ
ตัวอย่าง
SELECT *
FROM employee
WHERE emp_id IN ('100234','100235','100236')
ความหมายของ Query นี้คือ การเลือกพนักงานที่มีรหัสตามที่ระบุนั่นเอง ซึ่งผลลัพธ์จะได้ 3 Records
ตัวอย่าง
SELECT *
FROM employee
WHERE emp_id IN ('100234','100235','100236')
ความหมายของ Query นี้คือ การเลือกพนักงานที่มีรหัสตามที่ระบุนั่นเอง ซึ่งผลลัพธ์จะได้ 3 Records
คำสั่ง JOIN ใน SQL
Join ก็คือ "ร่วมกัน" , "เชื่อมต่อ" ดังนั้นก็คือการเชื่อมโยงตารางเข้าด้วยกันนั่นเอง และการ join table
มีหลายรูปแบบซึ่งใช้งานแตกต่างกันออกไป
รูปแบบของการ JOIN ที่ใช้กันบ่อย ๆ มีดังนี้
INNER JOIN คือ ค่าของ column ที่ใช้ในการ join จะต้องมีค่าตรงกันเท่านั้น แถวของข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไขนี้เท่านั้นที่จะแสดงผลออกมาจากการ Query
LEFT JOIN คือ แถวจากตารางหลัก(ทางซ้าย)จะออกมาเสมอ แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลที่ตรงกันในตารางที่เชื่อมโยงไป
RIGHT JOIN จริง ๆ แล้วเหมือนกับ LEFT JOIN เพียงแต่สลับตำแหน่งของตารางที่ใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลเท่านั้น
(ไม่แนะนำให้ใช้ ใช้ LEFT JOIN แทนดีกว่า จะได้ไม่สับสน)
ตัวอย่าง
/* INNER JOIN */
SELECT e.emp_id,e.emp_name,d.dept_name
FROM employee as e
INNER JOIN department as d ON e.dept_id = d.dept_idORDER BY d.dept_id,e.emp_id
ความหมายคือ เลือกพนักงานทุกคนที่มีรหัสแผนกตรงกับในตารางแผนก
หากพนักงานคนใดยังไม่รหัสแผนกคือ dept_id ข้อมูลพนักงานรายนั้นจะไม่แสดงใน Query นี้
/* LEFT JOIN */
SELECT e.emp_id,e.emp_name,d.dept_name
FROM employee as e
LEFT JOIN department as d ON e.dept_id = d.dept_id
ความหมายคือ เลือกพนักงานทุกคนที่มีรหัสแผนกตรง หรือ ไม่ตรงกับในตารางแผนกออกมาทั้งหมด
ถึงแม้ว่าพนักงานบางรายจะยังไม่มีรหัสแผนก ข้อมูลพนักงานรายนั้นก็จะยังแสดงออกมาด้วย
เพียงแต่ว่าค่าใน column "dept_name" จะเป็นค่า NULL เท่านั้นเอง
มีหลายรูปแบบซึ่งใช้งานแตกต่างกันออกไป
รูปแบบของการ JOIN ที่ใช้กันบ่อย ๆ มีดังนี้
INNER JOIN คือ ค่าของ column ที่ใช้ในการ join จะต้องมีค่าตรงกันเท่านั้น แถวของข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไขนี้เท่านั้นที่จะแสดงผลออกมาจากการ Query
LEFT JOIN คือ แถวจากตารางหลัก(ทางซ้าย)จะออกมาเสมอ แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลที่ตรงกันในตารางที่เชื่อมโยงไป
RIGHT JOIN จริง ๆ แล้วเหมือนกับ LEFT JOIN เพียงแต่สลับตำแหน่งของตารางที่ใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลเท่านั้น
(ไม่แนะนำให้ใช้ ใช้ LEFT JOIN แทนดีกว่า จะได้ไม่สับสน)
ตัวอย่าง
/* INNER JOIN */
SELECT e.emp_id,e.emp_name,d.dept_name
FROM employee as e
INNER JOIN department as d ON e.dept_id = d.dept_idORDER BY d.dept_id,e.emp_id
ความหมายคือ เลือกพนักงานทุกคนที่มีรหัสแผนกตรงกับในตารางแผนก
หากพนักงานคนใดยังไม่รหัสแผนกคือ dept_id ข้อมูลพนักงานรายนั้นจะไม่แสดงใน Query นี้
/* LEFT JOIN */
SELECT e.emp_id,e.emp_name,d.dept_name
FROM employee as e
LEFT JOIN department as d ON e.dept_id = d.dept_id
ความหมายคือ เลือกพนักงานทุกคนที่มีรหัสแผนกตรง หรือ ไม่ตรงกับในตารางแผนกออกมาทั้งหมด
ถึงแม้ว่าพนักงานบางรายจะยังไม่มีรหัสแผนก ข้อมูลพนักงานรายนั้นก็จะยังแสดงออกมาด้วย
เพียงแต่ว่าค่าใน column "dept_name" จะเป็นค่า NULL เท่านั้นเอง
การใช้ Alias แทนชื่อคอลัมน์เดิมในคำสั่ง SQL
ลักษณะเช่นเดียวกับการใช้ Alias แทนชื่อตาราง เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้แทนในส่วน column name
ตัวอย่าง
SELECT e.emp_id as employee_id, e.emp_name as employee_name
FROM employee as e
จากตัวอย่างคือ การตั้งชื่อ column ใหม่จาก SQL Query จากเดิม emp_id เป็น employee_id
และจาก emp_name เป็น employee_name
ตัวอย่าง
SELECT e.emp_id as employee_id, e.emp_name as employee_name
FROM employee as e
จากตัวอย่างคือ การตั้งชื่อ column ใหม่จาก SQL Query จากเดิม emp_id เป็น employee_id
และจาก emp_name เป็น employee_name
การใช้ Alias แทนชื่อตารางในคำสั่ง SQL
เปรียบเหมือนการตั้งชื่อเล่นให้กับบุคคล เช่นคนที่ชื่อยาว ๆ ก็มีชื่อเล่นให้เรียกง่าย ๆนั่นเอง
ตัวอย่างการใช้ Alias ในคำสั่ง SQL
SELECT e.emp_id,e.emp_name,e.salary
FROM employee as e
ตัวอย่างการใช้ Alias ในคำสั่ง SQL
SELECT e.emp_id,e.emp_name,e.salary
FROM employee as e
คำสั่ง Group By ใน SQL
คำสั่ง Group By ใน SQL คือคำสั่งที่ใช้จัดกลุ่ม column จากการ Select ข้อมูล ซึ่งต้องใช้ร่วมกับ Aggregate function เช่น
-Count , Sum , Max , Min , Avg
ตัวอย่างการใช้ Group by
SELECT dept_no,COUNT(emp_id) as emp_count,SUM(salary) as sum_salary,MAX(salary) as max_salary,MIN(salary) as min_salary,AVG(salary) as avg_salary
FROM emp
GROUP BY dept_no
ความหมายของ Query นี้คือ การ นับจำนวนพนักงาน,ยอม Summary ของเงินเดือน ,เงินสูงสุด , เงินเดือนต่ำสุด และเงินเดือนเฉี่ยของพนักงาน ตามรหัสแผนกนั่นเอง
-Count , Sum , Max , Min , Avg
ตัวอย่างการใช้ Group by
SELECT dept_no,COUNT(emp_id) as emp_count,SUM(salary) as sum_salary,MAX(salary) as max_salary,MIN(salary) as min_salary,AVG(salary) as avg_salary
FROM emp
GROUP BY dept_no
ความหมายของ Query นี้คือ การ นับจำนวนพนักงาน,ยอม Summary ของเงินเดือน ,เงินสูงสุด , เงินเดือนต่ำสุด และเงินเดือนเฉี่ยของพนักงาน ตามรหัสแผนกนั่นเอง
คำสั่ง SQL , SQL Command
SQL คือ Simple Query Language (ย่อมาจาก) แปลตรง ๆ ก็คือ ภาษาพื้นฐานที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูลนั่นเอง
SQL Query ส่วนใหญ่แล้วจะมี Syntax ที่คล้าย ๆ แตกต่างกันเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น
การที่จะทำความเข้าใจกับ SQL ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่จะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานสักเล็กน้อย
เกี่ยวกับฐานข้อมูล ซึ่งก็มีมากมายให้เลือกใช้ครับ ตั้งแต่ของฟรีไปยังที่ต้องจ่ายเงิน(มาก)
ตัวอย่าง Free Database ก็เช่น Mysql , SQL Server Express Edition,
ส่วนที่ต้องเสียเงินก็เช่น SQL Server 2005,2008 , Microsoft Access, ORACLE , DB2
คำสั่ง SQL พื้นฐาน
SELECT FROM WHERE ORDER BY
SELECT : คือ "การเลือก" ความหมายก็ตรงตัว
FROM : คือ "จาก"
WHERE : คือ "ที่ตรงตามเงื่อนไข"
ORDER BY : คือ "การเรียงลำดับข้อมูล" ASC (Ascendant) คือจากน้อยไปหามาก , DESC (Descendant) คือ จากมากไปหาน้อย
หากไม่ใส่ ASC / DESC ค่า Default จะเป็น ASC
ดังนั้น SELECT FROM WHERE + ORDER BY ก็คือ การเลือกข้อมูลจากแหล่งข้อมูล (ตาราง / Table,View) ที่ต้องการ
โดยสามารถระบุเงื่อนไขลงไปนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
SELECT * FROM employee ORDER BY emp_id ASC
ก็หมายความว่าเลือกทุกคอลัมน์จากตาราง employee โดยเรียงลำดับด้วยฟิลด์ emp_id จากน้อยไปหามาก
การใช้ WHERE ใน SQL
SELECT * FROM employee
WHERE emp_id ='100234'
หมายความว่า เลือกข้อมูลทุกคอลัมน์จากตาราง employee ที่ค่าในคอลัมน์ emp_id เท่ากับ '100234'
SELECT * FROM employee
WHERE emp_id LIKE '100%'
หมายความว่า เลือกข้อมูลทุกคอลัมน์จากตาราง employee ที่ค่าในคอลัมน์ emp ขึ้นต้นด้วย '100'
ค่าที่เหลือจะเป็นอะไรก็ได้
SELECT emp_id,emp_name,tel_no,salary,(salary *1.1) as new_salary
FROM employee
ORDER BY salary DESC
หมายความว่า เลือกข้อมูล ตาม column ที่ระบุ และมีการคำนวนค่าจาก column เงินเดือนเพิ่มเติม
จากตาราง employee โดยขึ้นเงินเดือน 10% (salary *1.1)
SQL Query ส่วนใหญ่แล้วจะมี Syntax ที่คล้าย ๆ แตกต่างกันเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น
การที่จะทำความเข้าใจกับ SQL ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่จะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานสักเล็กน้อย
เกี่ยวกับฐานข้อมูล ซึ่งก็มีมากมายให้เลือกใช้ครับ ตั้งแต่ของฟรีไปยังที่ต้องจ่ายเงิน(มาก)
ตัวอย่าง Free Database ก็เช่น Mysql , SQL Server Express Edition,
ส่วนที่ต้องเสียเงินก็เช่น SQL Server 2005,2008 , Microsoft Access, ORACLE , DB2
คำสั่ง SQL พื้นฐาน
SELECT FROM WHERE ORDER BY
SELECT : คือ "การเลือก" ความหมายก็ตรงตัว
FROM : คือ "จาก"
WHERE : คือ "ที่ตรงตามเงื่อนไข"
ORDER BY : คือ "การเรียงลำดับข้อมูล" ASC (Ascendant) คือจากน้อยไปหามาก , DESC (Descendant) คือ จากมากไปหาน้อย
หากไม่ใส่ ASC / DESC ค่า Default จะเป็น ASC
ดังนั้น SELECT FROM WHERE + ORDER BY ก็คือ การเลือกข้อมูลจากแหล่งข้อมูล (ตาราง / Table,View) ที่ต้องการ
โดยสามารถระบุเงื่อนไขลงไปนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
SELECT * FROM employee ORDER BY emp_id ASC
ก็หมายความว่าเลือกทุกคอลัมน์จากตาราง employee โดยเรียงลำดับด้วยฟิลด์ emp_id จากน้อยไปหามาก
การใช้ WHERE ใน SQL
SELECT * FROM employee
WHERE emp_id ='100234'
หมายความว่า เลือกข้อมูลทุกคอลัมน์จากตาราง employee ที่ค่าในคอลัมน์ emp_id เท่ากับ '100234'
SELECT * FROM employee
WHERE emp_id LIKE '100%'
หมายความว่า เลือกข้อมูลทุกคอลัมน์จากตาราง employee ที่ค่าในคอลัมน์ emp ขึ้นต้นด้วย '100'
ค่าที่เหลือจะเป็นอะไรก็ได้
SELECT emp_id,emp_name,tel_no,salary,(salary *1.1) as new_salary
FROM employee
ORDER BY salary DESC
หมายความว่า เลือกข้อมูล ตาม column ที่ระบุ และมีการคำนวนค่าจาก column เงินเดือนเพิ่มเติม
จากตาราง employee โดยขึ้นเงินเดือน 10% (salary *1.1)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)